16 เมษายน 2020
คำถามนี้เป็นคำถามหนักใจของคุณพ่อคุณแม่เลยค่ะ จากประสบการณ์ การเปิดโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษมานานหลายปีจึงทำให้ทราบถึงความกังวลใจในส่วนนี้ดีค่ะ จึงขออนุญาติตอบเป็นข้อๆนะคะ
ข้อแรก “ไม่ชอบ "
ต้องถามเหตุผลก่อนว่าลูกของคุณทำไมถึงไม่ชอบภาษาอังกฤษ ซึ่งเราไม่ทราบว่าคุณพ่อคุณแม่ เคยถามลูกกันด้วยคำถามนี้ไหมคะ ผู้เขียนเองมีประสบการณ์ทั้งกับลูก และนักเรียนที่มาเรียน
ทุกครั้งเมื่อพวกเขา ถูกถามว่าชอบเรียนภาษาอังกฤษไหม เขาจะตอบกลับมา ว่าไม่ และไม่รู้ว่าเพราะอะไร “รู้แต่ว่าไม่ชอบ” ฟังดูอาจจะกวนๆ แต่ในความเป็นจริงแล้วๆ เด็กกลุ่มนี้ไม่ทราบจริงๆค่ะว่าเพราะอะไร เช่นถ้าถามว่าชอบครูที่สอนไหม? อืม ตอบว่า ไม่รู้อะ
หรือบทเรียนยากเกินไปไหม?ไม่ชอบบทเรียนหรือเปล่า? คำตอบคือไม่รู้สิ ดีไม่ดีพวกเขาก็อาจจะเงียบไปเลยค่ะ เด็กกลุ่มนี้ที่เรียนภาอังกฤษ เพราะเป็นวิชาบังคับที่โรงเรียน หรือไม่ก็ถูกบังคับมาให้เรียนพิเศษ
เราควรจะรับมืออย่างไรดี?
ก่อนอื่น คุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องให้ลูกทำการวัดระดับภาษาดูก่อนค่ะ ตรงส่วนนี้จะช่วยทำให้รู้ว่าลูกเราทำไมถึงไม่ชอบภาษาอังกฤษเพราะอะไร เช่นเด็กๆฟังสำเนียงของครูชาวต่างชาติไม่ออก หรือเป็นเพราะพิ้นฐานคำศัพท์ไม่ดี ครูที่สอนน่าเบื่อ หรือลูกเรา อ่านภาษาอังกฤษไม่ได้ ไม่ชอบหลักสูตรการเรียนในรูปแบบท่องจำที่ให้แต่การบ้าน และวัดผลด้วยข้อสอบแกรมม่าที่ทำให้เขาเกิดความเบื่อหน่าย และเกิดทัศนคติที่ไม่ดีต่อวิชาภาษาอังกฤษ ปัจจัยเหล่านี้อาจจะต้องได้รับการแก้ไขก่อนเป็นอันดับแรก ไม่เช่นนั้นลูกของเราจะไม่ชอบเรียนภาษาอังกฤษแบบถาวรแน่ๆ เบื้องต้นคุณพ่อคุณแม่ช่วยได้ค่ะ อาจจะต้องพูดถึงความจำเป็นและข้อดีของการใช้ภาษาอังกฤษในอนาคตว่าจะมีประโยชน์กับเขาแค่ไหน และคุณพ่อคุณแม่ต้องหาที่เรียนโดย เลือกคุณครูที่ดีและเหมาะสมมีความเข้าใจวิธีการสอนและถ่ายทอดให้ลูกคุณค่ะ เพื่อให้ครูได้ช่วยแก้ปัญหา และสร้างความสนุกสนานและชื่นชอบในการเรียนภาษาของพวกเขาค่ะ
ข้อสอง "กลัว ไม่กล้า"
คำถามนี้อย่าว่าแต่เด็กๆ เลยค่ะ แม้แต่ในผู้ใหญ่ซึ่งคิดว่าไม่น้อยค่ะที่กลัวและไม่กล้าที่จะพูดหรือเรียนภาษาอังกฤษกับชาวต่างชาติ เพราะกลัวฟังไม่รู้เรื่อง ไม่รู้จะพูดอะไรดี กลัวครูดุเวลาที่พูดผิด ไม่อยากเรียนกับครูที่เป็นเพศตรงข้าม ในส่วนนี้แนะนำให้เรียนแบบตัวต่อตัวแบบออนไลน์ดูค่ะ เพราะเวลาที่เรียนตัวต่อตัวแบบออนไลน์ จะมีคุณครูให้ลูกของคุณได้เลือกมากมาย ทั้งเพศ อายุ เชื้อชาติ และสำเนียง หากลูกยังไม่ถูกใจก็สามารถเปลี่ยนเป็นครูคนอื่นได้ตามความต้องการ และถ้าถูกใจแล้วจะเรียนแต่ครูคนเดิมตลอดการเรียนก็สามารถจองเรียนล่วงหน้าได้ค่ะ ระหว่างเรียนคุณยังนั่งอยู่ใกล้ๆลูก เพื่อทำให้เขาคลายกังวล และความกลัวได้ พร้อมทั้งเห็นพัฒนาการการเรียนของลูกได้ และจากการศึกษาและรวบรวมข้อมูลทำให้เรารู้ว่าการเรียนภาษาที่สองที่จะช่วยให้เด็กๆเรียนรู้และจดจำได้ดีที่สุดคือการเรียนรู้ในสถานที่ที่เด็กๆมีความคุ้นเคยในบรรยากาศที่ผ่อนคลายโดยปราศจากความกลัวและความกังวลค่ะ
ข้อสุดท้าย "อาย"
เราต้องรู้ก่อนว่าลูกของคุณจะอายเวลาที่ต้องพูดภาษาอังกฤษ หรือว่าลูกของคุณเป็นเด็กที่ขี้อายจริงๆ ซึ่งคำตอบทั้งสองอย่างจะแตกต่างกันทันทีค่ะ
ถ้าตอบว่าอายเวลาที่ต้องพูดภาษาอังกฤษให้ย้อนกลับขึ้นไปดูคำตอบข้างบนค่ะ แต่ถ้าเป็นอีกข้อ คุณจะเห็นว่า เด็กๆทุกคนมีบุคลิคภาพที่แตกต่างกัน บางคนกล้าแสดงออก มั่นใจในตัวเองสูง เป็นเด็กช่างพูดกล้าคิดกล้าถาม ในขณะที่เด็กบางคนมีบุคลิคลักษณะเงียบครึม ขี้อาย ซึ่งถ้าลูกของคุณเป็นเด็กขี้อายอาจจะทำให้เขาไม่กล้าที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า หรือเริ่มต้นที่จะเป็นฝ่ายคุยกับคนอื่นก่อน ซึ่งเด็กที่มีบุคลิคภาพเช่นนี้อาจจะต้องใช้เวลานานในการเปิดใจพวกเขาให้ชอบหรือทำ
ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ต้องเริ่มจากทำให้เขาชอบก่อนค่ะ ให้เขาเลือกครูที่ชอบด้วยตนเอง บางครั้งเด็กอาจอายไม่กล้าพูดถ้ามีคุณพ่อคุณแม่นั่งอยู่ด้วยในขณะที่เรียน ต้องถามลูกดูว่าเขาชอบแบบไหน ให้อยู่เป็นเพื่อนหรืออยากอยู่ลำพัง การเรียนภาษาอังกฤษให้ประสบความสำเร็จไม่มีสูตรตายตัว แต่ต้องปรับให้ยืดหยุ่นเหมาะสมกับผู้เรียนเป็นรายบุคคลค่ะ
สอบถามคอร์สเรียนภาษาอังกฤษ พร้อมทดสอบวัดระดับภาษาฟรี
https://www.edulivecenter.co.th
ติดต่อเรา 086-317-3321 หรือ 062-161-3025